วันที่ 18 ธันวาคม 2565 เวลา 13.00 น. ที่สำนักงานทนายความคู่ใจ ทนายรณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม ได้รับการร้องเรียนร้องทุกข์ขอความเป็นธรรมจาก นายพิพัฒน์ ก้อนเมฆ จากกรณีที่ถูกกลุ่มชายฉกรรจ์จำนวน 7-8 คน ร่วมกันรุมทำร้ายร่างกาย ซึ่งทำให้ได้รับบาดเจ็บหลายแห่ง และในที่เกิดเหตุ ทรัพย์สินเป็นสร้อยคอทองคำหนัก 5 บาท พระเลี่ยมทอง 1 องค์ ได้หายไปจากบริเวณที่เกิดเหตุ ต่อจากนั้นกลุ่มชายฉกรรจ์ดังกล่าวได้ร่วมกันบังคับหรือพยายามที่จะทำร้ายร่างกายนายพิพัฒน์ อย่างต่อเนื่อง และได้อุ้มตัวนายพิพัฒน์ ขึ้นรถมอเตอร์ไซค์ไปที่ออฟฟิศแห่งหนึ่งในบริเวณย่านตลาดสดคลองเตย และได้ใส่กุญแจมือนายพิพัฒน์ ที่ข้อมือโดยได้ติดกับบริเวณลูกกรงเหล็กภายในออฟฟิศ และได้ร่วมกันทำร้ายด้วยการซ้อมชกต่อยทำร้ายร่างกายนายพิพัฒน์ โดยกลุ่มชายฉกรรจ์ดังกล่าว ได้นำทรัพย์สินซึ่งเป็นโทรศัพท์มือถือ ปืนบีบีกันและทรัพย์สินของนายพิพัฒน์ ที่ได้ติดตัวเพื่อไว้ป้องกันตัวไปด้วย
หลังจากเกิดเหตุการณ์ นายพิพัฒน์ ได้เดินทางมาร้องทุกข์ขอความเป็นธรรม กับทนายรณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม โดยเล่าว่า ก่อนเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว
มีกลุ่มชายฉกรรจ์ ไม่พอใจนายพิพัฒน์เป็นการส่วนตัวได้อาฆาตข่มขู่ และห้ามนายพิพัฒน์ เข้ามาบริเวณตลาดคลองเตย ซึ่งนายพิพัฒน์ มีบ้านพักอาศัยที่อยู่ในบริเวณตลาดคลองเตย ซึ่งจำเป็นจะต้องเข้าออกอยู่เป็นประจำ เพราะมีบ้านพักอาศัยพร้อมครอบครัวอยู่ แต่ดังกล่าวอีก
จึงสร้างความไม่พอใจของกลุ่มชายฉกรรจ์ดังกล่าว และได้กระทำการจับตัวนายพิพัฒน์ และโทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง ปืนบีบีกัน 1 กระบอก และสร้อยคอทองคำ 5 บาท 1 เส้น ได้หายไปจากบริเวณที่เกิดเหตุ จึงสันนิษฐานได้ว่ากลุ่มชายฉกรรจ์ได้นำทรัพย์สินดังกล่าวไป จึงได้ไปแจ้งความพื้นที่รับผิดชอบของ สน.ท่าเรือ ในวันที่ 12 เวลา 19.00 น. ต่อพนักงานสอบสวนสน.ท่าเรือ ได้สอบปากคำนายพิพัฒน์ ไว้เบื้องต้น และดำเนินคดีต่อไป