เพาะกายพร้อมลุยศึกเพาะกายเอเชีย ที่เนปาล วางเป้าหมาย คว้า 10 ทอง
ดาโต๊ะพอล ชัว ประธานสหพันธ์เพาะกายและฟิตเนสแห่งเอเชีย ( ABBF) และนายศุกรีย์ สุภาวรีกุล เลขาธิการสหพันธ์เพาะกายและฟิตเนสแห่งเอเชีย ABBF ร่วมประชุมกับผู้แทนชาติสมาชิกสหพันธ์เพาะกายและฟิตเนสแห่งเอเชีย และตัวแทนผู้จัดการทีมและผู้ตัดสิน จำนวน 22 ประเทศ เมื่อวันที่ 2 กันยายน 2566 ที่ ห้อง รีกัล บอลรูม โรงแรม ยัคแอนด์เยติ (REGAL BALL ROOM YAK&YATI HOTEL ) ที่ เมือง กาฐมาณฑุ ประเทศเนปาล
สำหรับการประชุมครั้งนี้ เป็นการประชุมระเบียบและกฎกติกาการแข่งขันเพาะกายและฟิตเนสชิงชนะเลิศแห่งเอเชีย ที่ เมือง กาฐมาณฑุ ประเทศเนปาล ซึ่งจะทำการแข่งขันระหว่างวันที่ 4-6 กันยายน 2566 โดยแบ่งรุ่นการแข่งขันทั้งหมด 45 รุ่นการแข่งขัน วันที่ 4 ก.ย. มี 16 รุ่นการแข่งขัน วันที่ 5 ก.ย. มี 20 รุ่นการแข่งขัน วันที่ 6 ก.ย. มี 9 รุ่นการแข่งขัน ซึ่งในวันสุดท้ายไฮไลท์จะอยู่ที่ประเภทแชมป์ออฟแชมป์ซึ่งจะนำนักกีฬาเพาะกายที่ชนะจากทั้งหมด 9 รุ่นการแข่งขัน มาทำการแข่งขันเพื่อหาคนที่กล้ามสวยที่สุด และได้รับตำแหน่งมิสเตอร์เอเชีย ใน 2023
นอกจากนี้ในปีนี้ยังมีการเพิ่มรุ่นการแข่งขัน รุ่น สวิมมิง-ซูท (swimming suit) ซึ่งจะเป็นประเภทที่นักกีฬาหญิงใส่ชุดว่ายน้ำเต็มตัว ซึ่งจะต้องเป็นนักกีฬาที่มีมัดกล้ามไม่ใหญ่และสามารถใส่ชุดว่ายน้ำได้สวยงาม จะได้รับแชมป์รุ่นนี้ ซึ่งเป็นการบรรจุเป็นครั้งแรก โดยไทยจะส่ง ศิริพร ศรช่วย และ พ.จ.อ.หญิง อาจารี แท่นทรัพย์ ลงแข่ง
ด้านนายศุกรีย์ สุภาวรีกุล เลขาธิการสหพันธ์เพาะกายและฟิตเนสแห่งเอเชีย ABBF เปิดเผยว่า สำหรับการประชุมครั้งนี้นอกจากเรื่องระเบียบการแข่งขันก็จะมีเรื่องของต่างชาติก็จะมีฮ่องกง กับ ไต้หวันที่จะมีปัญหาการเดินทางล่าช้าเนื่องจากเจอพายุไต้ฝุ่น และเรื่องการเตรียมความพร้อมของเจ้าภาพจัดการแข่งขันเพาะกายและฟิตเนสชิงแชมป์โลกครั้งที่ 14 ที่จะมีขึ้นที่เมือง วอนจู ประเทศกาหลีใต้ ซึ่งจะมีขึ้นระหว่างวันที่ 6-12 พฤศจิกายน 2566 ส่วนเรื่องความพร้อมของนักกีฬาไทยในครั้งนี้ก็ถือว่าพร้อมมาก ซึ่งตนตั้งเป้าเอาไว้ 10 เหรียญทอง โดยต้องติดท็อป 3 ทั้งชายและหญิง
ส่วนในวันที่ 3 กันยายน 2566 นั้นจะเป็นการประชุมใหญ่สหพันธ์เพาะกายและฟิตเนสแห่งเอเชีย โดยวาระสำคัญอยู่ที่การเลือกตั้งคณะกรรมการบริหารสหพันธ์เพาะกายและฟิตเนสแห่งเอเชียประจำปี 2023-2027 และการเสนอตัวเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันเพาะกายและฟิตเนสชิงชนะเลิศแห่งเอเชีย ครั้งต่อไป ที่ประชุมจะมีการพิจารณาว่าจะเลือกชาติไหนเป็นเจ้าภาพ
