เมื่อวันที่ 18 มกราคม 2567 ที่ผ่านมา ณ ณ MCC HALL ชั้น 4 ห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์ไลฟ์สโตร์ งามวงศ์วาน จังหวัดนนทบุรี นายแพทย์จุมภฎ พรมสีดา รองอธิบดีกรมสุขภาพจิต พร้อมด้วย หม่อมหลวงยุพดี ศิริวรรณ เลขาธิการมูลนิธิโครงการ TO BE NUMBER ONE และที่ปรึกษาโครงการ TO BE NUMBER ONE ผู้แทนเครือข่าย ผู้ให้การสนับสนุน คณะครูผู้ฝึกสอนจากบ้าน TO BE NUMBER ONE IDOL ร่วมงานแถลงข่าวการประกวดเยาวชนต้นแบบเก่งและดี TO BE NUMBER ONE (TO BE NUMBER ONE IDOL) รุ่นที่ 14 ประจำปี 2567
นายแพทย์จุมภฎกล่าวว่าปัจจุบันนี้มากกว่าร้อยละ 90 ของวัยรุ่นและเยาวชนไทย สามารถเข้าถึงเทคโนโลยีและอินเตอร์เน็ต โดยผ่านอุปกรณ์สื่อสารเคลื่อนที่ ทั้งสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ต ทำให้การใช้ชีวิตบนโลกสังคมออนไลน์ของวัยรุ่นและเยาวชน มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นทั้งโอกาสและความเสี่ยง “โอกาส” ในที่นี้ คือ การที่วัยรุ่นและเยาวชน สามารถใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีสารสนเทศ ในการหาความรู้และข้อมูลต่าง ๆ เพื่อเพิ่มศักยภาพและพัฒนาทักษะที่เป็นประโยชน์ต่อการใช้ชีวิต และการทำงานในอนาคตได้ แต่ในขณะเดียวกัน ก็มี “ความเสี่ยง” และภัยออนไลน์ ในรูปแบบต่าง ๆ ทั้งยาเสพติดและอบายมุข โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เรื่อง “ยาเสพติด” ซึ่งผู้ค้ายาเสพติดในปัจจุบัน มักจะหาช่องทางการขายร่วมกับการโฆษณาชวนเชื่อ อวดอ้างสรรพคุณต่าง ๆ โดยใช้สื่อออนไลน์ ซึ่งตรวจสอบได้ยาก ทำให้เด็กและเยาวชนตกเป็นเหยื่อของความอยากรู้ อยากลอง
หลักการสำคัญในการป้องกันแก้ไขปัญหา ทุกปัญหา ไม่ว่ายุคใดคือการเข้าให้ถึงกลุ่มเป้าหมาย “รู้เขา รู้เรา” โดยกิจกรรม TO BE NUMBER ONE IDOL หรือการสร้างเยาวชนต้นแบบเก่งและดี ซึ่งเป็นกลยุทธ์หนึ่งของโครงการ TO BE NUMBER ONE ในการเข้าถึงกลุ่มวัยรุ่นและเยาวชนคนรุ่นใหม่ เพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาความเสี่ยงข้างต้น ที่เกิดจากการพระอัจฉริยภาพของทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี องค์ประธานโครงการ พระองค์ทรงเข้าใจ เข้าถึงธรรมชาติ พฤติกรรมและความต้องการของวัยรุ่นอย่างแท้จริง โดยการคัดเลือกและเสริมศักยภาพเยาวชนให้มีความเป็นผู้นำ และมีคุณลักษณะ “เก่ง ดี และมีความสุข” ซึ่งดำเนินการมาถึง ปีนี้ เป็นปีที่ 14 และมีเยาวชนที่ผ่านการพัฒนาให้มีคุณลักษณะ ดังที่กล่าวแล้ว นับพันคน กระจายตัวเป็น “น้ำดี” ในทุกภูมิภาค เพื่อช่วยสร้างกระแสการเป็นคนเก่งและดี ให้กลุ่มเยาวชนวัยรุ่น และเป็นต้นแบบให้กับเพื่อน ๆ พี่ ๆ ในวัยเดียวกัน ที่มีความเสี่ยง ในการตกเป็นเหยื่อของสังคมออนไลน์ ให้รู้เท่าทันการใช้สื่อเทคโนโลยีที่ถูกต้องเหมาะสม ไม่ไปพึ่งพาหรือเกี่ยวข้องกับสิ่งเสพติดหรืออบายมุขที่จะทำให้ตนเอง ครอบครัว สังคม เดือดร้อน รวมทั้งมุ่งมั่นที่จะพัฒนาตัวเองให้เป็นคนเก่งและดี เพื่อเป็นเยาวชนคนรุ่นใหม่ ที่จะเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาประเทศชาติต่อไป
หม่อมหลวงยุพดี กล่าวว่าการประกวดเยาวชนต้นแบบเก่งและดี TO BE NUMBER ONE หรือ TO BE NUMBER ONE IDOL เป็นกิจกรรมหนึ่งภายใต้โครงการ TO BE NUMBER ONE ที่ต้องการแสดงให้คนทั่วไปรับรู้ว่าเยาวชน TO BE NUMBER ONE สามารถพัฒนาศักยภาพตัวเองให้เป็นทั้งคนเก่งและดี และเป็นต้นแบบแก่เพื่อนๆ สมาชิก TO BE NUMBER ONE และกลุ่มเยาวชนทั่วไปได้ สำหรับปี 2567 นี้ เป็นปีที่ 14 ของการจัดกิจกรรมการประกวด TO BE NUMBER ONE IDOL โดยจะมีการเฟ้นหาสุดยอดเยาวชนทั้ง 40 คนจากทั่วประเทศ เกณฑ์การประกวดคือ ต้องเป็นสามาชิก TO BE NUMBER ONE อายุระหว่าง 15-18 ปี เกรดเฉลี่ยผลการเรียนดี มีความกตัญญูรู้คุณ ซื่อสัตย์ เห็นแก่ประโยชน์ส่วนรวม มีมนุษยสัมพันธ์ที่ดี มีความฉลาดทางอารมณ์ (EQ) มีจิตอาสา และมีความสามารถพิเศษ เช่น การร้องเพลง การเต้น และมีบุคลิกภาพดี จากนั้นมีการเข้าเก็บตัวเพื่อพัฒนาทักษะด้านต่างๆ ทั้งด้านวิชาการ,ด้านการร้องเพลง,ด้านการเต้น,ด้านการแสดง รวมถึงการพัฒนาบุคลิกภาพอย่างเหมาะสมและต้องผ่านการประกวดประชันความสามารถและพัฒนาการบนเวทีทุกวันเสาร์ โดยมีผู้ทรงคุณวุฒิ อาทิ ท็อป ดารณีนุช, หลิว มนัสวีร์ ,ชิน ชินวุฒ และกรรมการพิเศษร่วมฝึกอบรมในแต่ละสัปดาห์ และสุดท้ายจะคัดเลือกสุดยอดเยาวชนจนเหลือ TO BE NUMBER ONE IDOL ระดับประเทศเพียง 16 คน
สามารถติดตามความเคลื่อนไหวของน้องๆเยาวชน ได้ในรายการ TO BE NUMBER ONE IDOL 14 DAILY HIGHTLIGHT ทางสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย (ช่อง NBT) ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 09.35-10.00 น. เริ่มตั้งแต่วันที่ 8 เมษายน – 10 พฤษภาคม 2567
นางสาวนันธพร กล่อมแก้ว “โอปอล์” TO BE NUMBER ONE IDOL รุ่นที่13ได้เผยถึงความรู้สึกของตนเองว่าเวลา 1 ปี ที่ได้ทำภารกิจในฐานะ TO BE NUMBER ONE IDOL ผ่านไปเร็วมาก ตนเองยังรู้สึกสนุกกับการทำงานและการได้อยู่กับเพื่อนๆทั้ง 16 คน ได้มีโอกาสใกล้ชิดกับทูลกระหม่อมซึ่งพระองค์ท่านน่ารักและเป็นกันเองมากๆ คิดว่า 1 ปีเป็นเวลาที่ไวมากๆ การได้เป็น IDOL ช่วยให้ตัวเองได้รับโอกาสที่หลากหลาย ถ้าเริ่มตั้งแต่ตอนประกวดในระดับภาค จากที่เต้นไม่เป็นเลยตอนนี้พัฒนาขึ้นมาก และการได้พบเจอผู้คนมากมายได้สังคมที่ดี ทำให้เรากล้าแสดงออก รู้จักการวางตัว การทำงานเป็นทีม รู้จักการแบ่งเวลา มองว่าการเป็น TO BE NUMBER ONE IDOL เราสามารถฝึกฝนได้ ทั้งการร้องและการเต้น เพียงแค่มีความพยายาม รู้จักสร้างเสน่ห์ให้กับตนเอง เป็นตัวของตัวเอง อยากฝากถึงน้องๆที่จะเข้าประกวด TO BE NUMBER ONE IDOL รุ่นต่อไป ว่าอย่าท้อ ให้พยายามเข้าไว้ ขอให้ทุกคนประสบความสำเร็จตามที่ตั้งใจไว้
นายชลัช ลิ่มวงศ์เสรี “แมนนี่” อีกหนึ่งในTO BE NUMBER ONE IDOL รุ่นที่13เล่าว่าตนเองเข้าประกวด TO BE NUMBER ONE IDOL มาแล้วถึง 3 ปี และมาประสบความสำเร็จได้รับคัดเลือกในปีสุดท้าย จากที่เข้าประกวดหลายครั้งเมื่อผิดหวังก็ต้องมีท้อบ้าง แต่ก็มีกำลังใจจากคุณแม่และครูที่โรงเรียนให้ลองสู้อีกครั้ง และเราก็อยากลองตั้งใจทำให้เต็มที่อีกสักครั้ง ตลอด 1 ปีที่ผ่านมาของการเป็น TO BE NUMBER ONE IDOL มีความประทับใจหลายอย่าง ประทับใจพี่ๆทีมงานที่คอยให้ความช่วยเหลือทุกอย่าง การได้ออกทัวร์ตลอด 1 ปี ทำให้ได้พบเจอคนใหม่ๆ ทั้งศิลปิน ดารา รุ่นพี่ที่คอยให้คำแนะนำ คำปรึกษาที่ดี ทำให้เรามีพัฒนาการด้านต่างๆมากมาย ได้รับสิ่งดีๆจากเพื่อน TO BE NUMBER ONE IDOL รุ่นที่ 13 ที่มีมิตรภาพที่ดีต่อกัน คอยสนับสนุน เป็นกำลังใจให้กัน นอกจากนี้เรายังได้รับประสบการณ์จากการได้ติดตามทูลกระหม่อมองค์ประธานโครงการไปแสดงโชว์ในที่ต่างๆ ได้รับคำพูดให้กำลังใจจากทูลกระหม่อมทำให้เรามีความมั่นใจด้านการร้องการเต้นมากขึ้น มองว่าการเป็นคนเก่ง คนดี ในความหมายของ TO BE NUMBER ONE IDOL เราไม่จำเป็นต้องเก่งเฉพาะด้านใด ด้านหนึ่ง แต่เราสามารถทำได้หลากหลาย และการเป็นคนดีของเราก็คือ เป็นลูกที่ดี เป็นเพื่อนพี่น้องที่น่ารักของทุกคนก็นับว่าดีที่สุดแล้ว ขอเป็นกำลังใจให้น้องๆทุกคน ไม่ว่าเราจะเจอเรื่องที่ยากขนาดไหน เชื่อว่าทุกคนมีศักยภาพที่จะข้ามผ่านไปได้ ขอให้ทุกคนยิ้มสู้เข้าไว้ อย่าท้อ มองโลกในแง่บวกเข้าไว้ ขอให้ทุกคนประสบความสำเร็จ
--------------------------------------------------------------------------------------
วันที่ 22 มกราคม 2567