ดร.จำลอง อนันตสุข โฆษกคณะกรรมาธิการการท่องเที่ยวและการกีฬา เผยว่า เมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา นายพิศูจน์ รัตนวงศ์ ประธานคณะกรรมาธิการการท่องเที่ยวและการกีฬา วุฒิสภา เป็นประธานการประชุมเพื่อพิจารณานโยบาย แผนงาน และแนวทางการดำเนินงานของกองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว
โดยมี พล.ต.ท. ศักย์ศิรา เผือกอ่ำ ผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว พร้อมคณะเข้าร่วมประชุมเพื่อชี้แจงและได้รายงานมาตรการด้านการรักษาความปลอดภัยและการช่วยเหลือนักท่องเที่ยว ตลอดจนโครงการและกิจกรรมที่กองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยววางแผนดำเนินการในปีงบประมาณ 2568 นอกจากนี้ยังมีการหารือข้อเสนอแนะเกี่ยวกับกฎหมาย ระเบียบ และข้อบังคับที่อาจส่งผลต่อการปฏิบัติงานของตำรวจท่องเที่ยว
ซึ่งที่ประชุมได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นและเสนอแนะแนวทางที่จะส่งเสริมความร่วมมือระหว่างกองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยวและคณะกรรมาธิการการท่องเที่ยวและการกีฬา วุฒิสภา เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการดูแลรักษาความปลอดภัยและช่วยเหลือนักท่องเที่ยวในอนาคต
ดร.จำลอง กล่าวว่า ประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับการท่องเที่ยวทางทะเลและกิจกรรมทางน้ำ เช่น การดำน้ำ ล่องเรือ และกีฬาทางน้ำต่าง ๆ อย่างไรก็ตาม อุบัติภัยทางน้ำยังคงเป็นปัญหาสำคัญที่ส่งผลต่อภาพลักษณ์การท่องเที่ยวของประเทศ
“ปัญหาหลักที่พบคือ ความปลอดภัยของเรือและยานพาหนะทางน้ำ ซึ่งบางครั้งขาดการตรวจสอบและบำรุงรักษาตามมาตรฐานที่กำหนด นอกจากนี้ ยังมีการ ขาดแคลนอุปกรณ์ความปลอดภัย เช่น เสื้อชูชีพและอุปกรณ์ช่วยชีวิต รวมถึงกรณีที่นักท่องเที่ยวบางรายละเลยการใช้อุปกรณ์ความปลอดภัย ทำให้เสี่ยงต่ออุบัติเหตุ เช่น การจมน้ำ การปกปิดข้อมูลที่สำคัญเช่น ว่ายน้ำไม่เป็น หรือมีโรคประจำตัว ปัญหาเหล่านี้สะท้อนถึงความจำเป็นในการเพิ่มมาตรการควบคุมและส่งเสริมความตระหนักด้านความปลอดภัย เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับนักท่องเที่ยวและยกระดับภาพลักษณ์การท่องเที่ยวไทยในระยะยาว”
โฆษก กมธ. การท่องเที่ยวฯ กล่าวต่ออีกว่า จากรายงานของตำรวจท่องเที่ยว คณะกรรมาธิการการท่องเที่ยวฯ ห่วงใยเหตุการณ์อุบัติเหตุจากนักท่องเที่ยวเช่ารถจักรยานยนต์โดยไม่มีใบขับขี่สากล ซึ่งผู้ประกอบการต้องมีส่วนรับผิดชอบในการตรวจสอบเอกสารสำคัญของผู้เช่าอย่างละเอียดก่อนปล่อยรถให้บริการ เนื่องจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยของทั้งนักท่องเที่ยวและประชาชนในพื้นที่ ซึ่งการเช่ารถจักรยานยนต์โดยไม่มีใบขับขี่สากลเป็นการเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ
โฆษกคณะกรรมาธิการฯ ย้ำว่า กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยวเพียงอย่างเดียวไม่เพียงพอในการแก้ไขปัญหา จึงจำเป็นต้องเร่งรัดให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการควบคุมดูแลผู้ประกอบการให้ปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด ผู้ใดฝ่าฝืนต้องถูกดำเนินคดีโดยเด็ดขาด การแก้ไขปัญหานี้ จะช่วยสร้างความมั่นใจให้กับนักท่องเที่ยวและลดอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นได้ในอนาคต